เหตุผลหนึ่งที่มาเลเซีย เป็นทีมที่คู่แข่งต้องหวาดหวั่น นั่นก็เนื่องจากว่ามี บูกิต จาริล เป็นรังเหย้านั่นเอง เนื่องจาก บูกิต จาริล สเตเดี้ยม มีความจุ 87,411 ที่นั่ง และก็ชอบทำให้อาคันตุกะต้องอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปกับเสียงเชียร์ของแฟนคลับที่พร้อมจะกดดันคู่แข่ง ทุกวินาทีแบบประสานเสียงโดยพร้อมกัน จนกระทั่งเปลี่ยนเป็น ‘นรกของทีมเยือน’ร่วมส่งกำลังใจให้ฟุตบอล ทีมชาติไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมชาติไทย ที่ยังไม่เคยมาเอาชัยที่นี่ได้นานกว่า 9 ปี โดยครั้งสุดท้ายที่ได้เฮ ณ สังเวียนแข้งแห่งนี้ จะต้องย้อนกลับไปในศึก อาเซียน คัพ 2014 เลยทีเดียว
แฟนบอลอินโดนีเซีย ที่ว่าโหดๆมาที่มาเลเซีย กับ บูกิต จาริล ก็มิได้ด้อยไปกว่ากันเท่าใด
เสน่ห์อย่างหนึ่งของกลุ่ม ‘อุลตร้ามาลายา’ (ชื่อเรียกของแฟนฟุตบอลชาวมาเลเซีย) คือการที่พวกเขามีความปรองดองสูงมากๆไม่มีแบ่งแยกว่าจะมาจากก๊วนไหน เนื่องจากเมื่อเข้าสนามแล้ว พวกท่านเป็นหนึ่งเดียว
มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้อัฒจันทร์ที่ 4 ฟากฝั่งของ บูกิต จาริล จึงกระหึ่มไปด้วยเสียงเชียร์ที่สนั่นตลอดทั้งเกมการแข่งขัน ทำให้ทีมชาติไทยต้องใจแข็งกันหน่อย
ที่สำคัญเป็นอุลตร้ามาลายาบางครั้งก็อาจจะเป็นกองเชียร์ที่ดุเดือดเอาจริงเอาจังมากก็จริง แต่ว่าพวกเขาหนักหน่วงในเกมเท่านั้น ไม่สร้างความลำบากให้แฟนๆทีมเยือน หรือสมาคมบอลของมาเลเซีย เลย
แต่เพียงพอเสียงนกหวีดเป่าปรี๊ด…พวกเขาพร้อมที่จะแหกปากกู่ร้องเพื่อกดดันวิธีการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน, ส่งเสียงโวยวายเมื่อทีมของตนเองเสียเปรียบ, ด่าฝั่งตรงข้ามด้วยความหนักหน่วง และอีกสารพันสิ่งที่เท่าที่จะทำเป็นในกรอบกฎระเบียบสากล
รอบแบ่งกลุ่มของ อาเซียน คัพ 2020 มาเลเซีย ทำไปได้ทั้งหมด 10 ประตู ซึ่งมีถึง 8 ลูก ที่มาจากการสร้างสรรค์เกมทางริมเส้น
ทัพเสือเหลืองแห่ง มาลายัน ชุดนี้มีฟูลแบ็กที่ดุเดือด และพลังหนุ่ม เนื่องจากอายุ 21 เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็น อาซาม อัซมี่ ในฝั่งขวาที่นอกเหนือจากการที่จะพละกำลังล้นเหลือ เขายังเป็นกองหลังที่มีวินัยสูง แถมยังมีลูกขยัน กัดไม่ปล่อย ซึ่งจะสร้างความรำคาญให้บรรดาแนวรุกฝั่งตรงข้ามแน่นอน
ขณะที่ฟากซ้าย รูเว็นธิราน เว็นกาเดซาน ก็สะดุดตาในเรื่องเกมรับที่ไม่ปล่อยให้คู่แข่งผ่านได้อย่างไม่ยากเย็นซึ่งนำมาซึ่งการทำให้
บรรดาตัวรุกข้างบนของทีมไม่ต้องกังวลมากนัก
แต่ว่าจุดที่ ‘อันตราย’ มากที่สุดเป็น ‘ปีก’ ทั้งสองข้างของมาเลเซีย ไม่ว่าจะเป็น ซาฟาวี่ ราซิด กับ ไฟซาล ฮาลิม ที่มีดีคนละแบบ
ดังนั้น ‘เกมริมเส้น’ จึงเป็น ‘ลักษณะเด่น’ ของมาเลเซีย ชุดนี้ ซึ่งทาง อเล็กซานเดร โพลกิ้ง เองก็คงทราบกันดีอยู่แล้ว แต่เขาจะมีแผนในการต่อกรกับความอันตรายของทัพเสือเหลืองแห่งมาลาจนกระทั่งเจริญเท่าใด อาจจะจะต้องติดตามกันในรอบรองชนะเลิศทั้ง 2 เกม
หนีห่าง เบรนแดน กัน
เขาบางครั้งอาจจะไม่เด่นสะดุดตา แต่เมื่อใดที่ทีมเสือเหลืองแห่งมาลาจนถึงมีเขาอยู่ในสนาม เมื่อนั้นรับประกันได้เลยว่าบรรดาแนวรุกจะเล่นกันได้อย่างสบายใจ ส่วนแผงหลังก็งานค่อย เนื่องจากว่ามีคนเก็บกวาดให้ก่อนแล้ว
จริงๆแล้วมิดฟิลด์เชื้อสาย มาเลเซีย-ออสเตรเลีย ควรจะมีสถิติรับใช้ชาติมากยิ่งกว่านี้ หากแต่มีอยู่ตอนหนึ่งที่เขาหลุดทีมไป รวมถึงการปลีกวิเวกไปรักษา ‘มะเร็งลูกอัณฑะ’ อยู่พักใหญ่
ทว่าพอกลับมาลงสนามให้เสือเหลือแห่ง มาลายัน เขาก็ทุ่มเทและทำผลงานออกมาเจริญมากๆเสมอ
กัน บางครั้งอาจจะไม่รวดเร็วนัก แต่เขาเป็นกองกลางที่เล่น ฟุตบอลด้วยสมอง เขาอ่านจังหวะของเกมได้เฉียบขาด มันก็เลยทำให้บอลสองของมาเลเซีย เก็บกินได้เสมอ ซึ่งก็มาจากการที่มีมิดฟิลด์วัย 34 ปี คนนี้คอยจัดแจงนั่นเอง
เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่เปล่งประกายในสนาม แต่ประโยชน์นั้นมากมายสำหรับทีมของตัวเอง ซึ่งจุดนี้นี่แหละที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง คงจะต้องหาแนวทางหลบลี้ลูกครึ่งออสซี่ ให้ได้ เพราะว่าใน คิงส์ คัพ 2022 ก็เห็นๆอยู่ว่าที่ไทย ได้เพียงผลเสมอนั่นก็มาจากการที่ กัน สามารถจัดการกับแนวรุกช้างศึกได้นั่นเอง
พอใจแต่ฟุตบอลสิ่งเดียว
ครั้งสุดท้ายที่ทัพช้างศึกเอาชนะคู่แข่งรายนี้ได้ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปี ที่แล้ว ซึ่งเวลานี้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นผู้จัดการทีม และสิ่งหนึ่งที่ ‘โค้ชซิโก้’ เน้นย้ำกับลูกทีมเป็น ‘เล่นบอลอย่างเดียว’
ผู้ฝึกสอนชาวขอนแก่น สั่งย้ำนักฟุตบอลว่าไม่ต้องเอาใจใส่กับลูกตุกติกของฝั่งตรงข้าม คนไหนกันแน่จะเล่นหนักก็ช่างปะไร พวกเราพึงพอใจเพียงแค่การแข่งขันก็พอ
ผลที่ออกมาเป็นความสำเร็จทั้งในทีมชาติชุดใหญ่ และชุดยู-23 ที่ฟาดแชมป์เป็นว่าเล่น พร้อมด้วยครองความเป็น เบอร์หนึ่งของอาเซียน อยู่นานพอเหมาะพอควร ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนในภายหลัง
ด้วยเหตุผลดังกล่าวเกมที่จะบุกไปเยือนสนาม บูกิต จาริล ในวันเสาร์ที่ 7 ม.ค.นี้ คงจะต้องมีสมาธิกับการแข่งขันให้มากมายที่สุด และก็อย่าว่อกแว่กกับแท็กติกการเตะหนักของมาเลเซีย เป็นอันขาด
อย่าให้ ราซิด เล่นง่าย ทีมชาติไทย ต้องกดดันแบบสุดๆ
10 ประตู ที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะไม่มีชื่อของ ซาฟาวี่ ราซิด บนกระดานคะแนน แต่เขาก็มีถึง 4 แอสซิสต์ ซึ่งมากที่สุดใน อาเซียน คัพ 2022
แนวรุกป้ายแดงของ ราชบุรี เอฟซี เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์ กับผลงานสำหรับเพื่อการสร้างสรรค์เกมที่สามารถทำได้หลายหลาก ไม่ว่าจะจ่ายบอลทะลุช่องหรือ ครอสจากริมเส้น
แม้ว่าจะอายุแค่ 25 ปี แต่เดี๋ยวนี้เขาสะสมไมล์รับใช้ชาติไปแล้ว 50 เกม ซึ่งนั่นทำให้ประสบการณ์ของปีกรายนี้เข้มคลั่กและสามารถประคับประคองเพื่อนร่วมทีมได้
5 เกม หลังสุดที่ประจันหน้ากับไทย – ราซิด มีส่วนร่วมทุกนัด และก็สร้างความระส่ำระสายให้กับ แนวรับของช้างศึกอยู่ตลอด ก่อนจะทำไป 1 ประตู และมีอีก 1 แอสซิสต์
ที่สำคัญคือทั้ง 5 แมตช์ – มาเลเซีย ไม่พลาดท่าต่อไทย เลยสักครั้ง
โดยเหตุนั้นแม้จะหยุดเกมรุกของเสือเหลืองแห่งมาลายัน ก็จึงควรทำลายจังหวะการเล่นของ ราซิด ที่เปรียบได้ดั่งหัวใจสำหรับเพื่อการขับเกมของ มาเลเซีย ให้อยู่หมัด